5 IDEA เลือกโทนสีไม้เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน
- Cabineter
- 2 มิ.ย.
- ยาว 1 นาที

สวัสดีค่ะคนรักบ้าน โดยเฉพาะคนที่หลงใหลในเสน่ห์ของ สีลายไม้ เวลาจะทำเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินทั้งที การเลือกโทนสีไม้นี่แหละค่ะที่เป็นหัวใจสำคัญ เพราะลายไม้และสีสันที่ต่างกันก็ให้อารมณ์ความรู้สึกที่แตกต่างกันไปเลย วันนี้เรามีไอเดียดีๆ ในการเลือกโทนสีไม้สำหรับงานบิวท์อินมาฝากกัน 5 วิธี รับรองว่าบ้านของคุณจะออกมาสวยอบอุ่น น่าอยู่ขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ
1. รู้จักเสน่ห์ของไม้แต่ละโทน (Understanding Wood Tones)
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับโทนสีไม้หลักๆ กันก่อนค่ะ:
ไม้สีอ่อน (Light Wood Tones): อย่างไม้แอช, ไม้เมเปิ้ล, ไม้บีช หรือไม้สนซีดาร์ มักให้ความรู้สึกสว่าง โปร่งโล่ง สบายตา ทำให้ห้องดูกว้างขึ้น เหมาะกับสไตล์มินิมอล สแกนดิเนเวียน หรือบ้านที่ต้องการความรู้สึกผ่อนคลาย เรียบง่าย
ไม้สีกลาง (Medium Wood Tones): เช่น ไม้โอ๊ค (มีหลายเฉด), ไม้สัก (โทนธรรมชาติ), ไม้เชอร์รี เป็นโทนสียอดนิยม ให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นกันเอง มีความเป็นธรรมชาติสูง เข้ากับบ้านได้หลากหลายสไตล์ ตั้งแต่โมเดิร์น คลาสสิก ไปจนถึงร่วมสมัย
ไม้สีเข้ม (Dark Wood Tones): กลุ่มไม้วอลนัท, ไม้มะฮอกกานี, หรือไม้เวงเก้ จะให้ลุคที่ดูสุขุม หรูหรา มีน้ำหนัก สร้างมิติและความน่าสนใจให้กับห้อง เหมาะกับสไตล์โมเดิร์นลักซ์ชัวรี คลาสสิก หรือการตกแต่งที่ต้องการความโดดเด่น
การทำความเข้าใจลักษณะเด่นของไม้แต่ละโทนสี จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเลือกให้เข้ากับสิ่งที่เราต้องการค่ะ
2. จับคู่สีไม้ให้เข้ากับสไตล์ห้อง (Matching Wood with Room Style)
สไตล์การตกแต่งห้องเป็นอีกปัจจัยสำคัญค่ะ ลองดูว่าบ้านหรือห้องของคุณเป็นสไตล์ไหน:
มินิมอล / สแกนดิเนเวียน: เน้นไม้สีอ่อน ลายไม้ไม่ซับซ้อน หรืออาจเป็นไม้ทำสีขาวไปเลย
โมเดิร์น / คอนเทมโพรารี: สามารถใช้ไม้ได้หลากหลาย ตั้งแต่สีกลางไปจนถึงสีเข้ม เน้นลายไม้ที่เรียบหรู หรือมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
คลาสสิก / วินเทจ: ไม้สีกลางถึงเข้ม ที่มีลายไม้ชัดเจน หรือมีการทำสีให้ดูเก่าแก่ขึ้นเล็กน้อย จะช่วยเสริมบรรยากาศได้ดี
ลอฟท์ / อินดัสเทรียล: ไม้สีเข้ม หรือไม้ที่มีลักษณะค่อนข้างดิบ มีร่องรอยตามธรรมชาติ จะดูเข้ากันมาก
โคสตัล / รีสอร์ท: ไม้สีอ่อนมากๆ หรือไม้ฟอกขาว รวมถึงไม้สีธรรมชาติโทนสว่าง จะให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนอยู่ริมทะเล
3. แสงธรรมชาติและแสงไฟ มีผลต่อสีไม้อย่างไร? (Light Matters!)
แสงในห้องมีผลต่อการมองเห็นสีไม้มากนะคะ ห้องที่มีแสงธรรมชาติส่องถึงเยอะๆ ไม้สีอ่อนจะยิ่งดูสว่างและทำให้ห้องโปร่ง ส่วนไม้สีเข้มก็จะเผยให้เห็นลายไม้ที่สวยงามชัดเจนขึ้น
ในทางกลับกัน ถ้าห้องค่อนข้างทึบแสง การเลือกใช้ไม้สีอ่อนจะช่วยลดความอึดอัดได้ หรือถ้าอยากใช้ไม้สีเข้มจริงๆ อาจจะต้องมีการจัดแสงไฟส่องเฉพาะจุด (Spotlight) ช่วยขับให้บิวท์อินไม้นั้นดูเด่นและไม่กลืนหายไปกับความมืดของห้อง อย่าลืมว่าสีของหลอดไฟ (Warm white, Cool white, Daylight) ก็มีผลต่อเฉดสีไม้ที่มองเห็นด้วยนะคะ
4. ขนาดห้องกับความหนักเบาของสีไม้ (Room Size & Wood Intensity)
ห้องขนาดเล็ก: แนะนำให้เลือกใช้ไม้โทนสีอ่อนถึงกลาง จะช่วยพรางตาให้ห้องดูกว้างและโปร่งสบายตามากขึ้น ถ้าชอบไม้สีเข้มจริงๆ อาจจะใช้เป็นส่วนตกแต่งเล็กๆ หรือเป็นชิ้นลอยตัวแทนที่จะเป็นบิวท์อินขนาดใหญ่
ห้องขนาดใหญ่: ค่อนข้างมีอิสระในการเลือกสีไม้มากกว่า สามารถใช้ไม้สีเข้มเพื่อสร้างความรู้สึกหรูหรา โอ่อ่า หรือเป็นจุดนำสายตาให้กับห้องได้โดยไม่ต้องกังวลว่าห้องจะดูแคบลง
5. ผสมผสานสีไม้...อย่างมีศิลปะ (Mixing Wood Tones Artfully)
ใครว่าต้องใช้ไม้สีเดียวทั้งบ้าน? การผสมผสานไม้ต่างโทนสีก็ทำได้ค่ะ แต่ต้องมีหลักการนิดหน่อย:
เลือกไม้ที่มี Undertone (โทนสีแฝง) ไปในทิศทางเดียวกัน: เช่น ไม้โทนอุ่น (ติดส้ม/เหลือง/แดง) ก็ควรจับคู่กับไม้โทนอุ่นด้วยกัน
สร้างคอนทราสต์ที่น่าสนใจ: เช่น พื้นไม้สีอ่อน กับบิวท์อินครัวสีเข้ม หรือโต๊ะกลางไม้สีเข้มบนพื้นไม้สีอ่อน
กำหนด "พระเอก": ให้มีไม้โทนสีใดสีหนึ่งเป็นหลักในห้อง แล้วใช้ไม้โทนสีอื่นเป็นส่วนเสริม เพื่อไม่ให้ดูสับสนจนเกินไป
ใช้วัสดุอื่นคั่น: เช่น พรม หรือการทาสีผนังบางส่วน ก็ช่วยเบรกและทำให้การผสมผสานสีไม้ดูลงตัวขึ้น
การเลือกโทนสีไม้อาจจะต้องใช้เวลาและความใส่ใจสักหน่อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือบ้านที่สวยงาม อบอุ่น และสะท้อนตัวตนของเราได้อย่างดีที่สุดค่ะ หากไม่มั่นใจ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบภายในหรือผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินที่มีประสบการณ์ ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และได้ผลงานที่ตรงใจ
หวังว่าไอเดียเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังวางแผนทำเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินนะคะ ขอให้สนุกกับการแต่งบ้านค่ะ! และถ้าหากคุณกำลังมองหาแรงบันดาลใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานออกแบบบิวท์อินสวยๆ สามารถเข้าไปชมไอเดียได้ที่ https://www.b4ubuiltin.com/ เรามีวัสดุยอดฮิตที่คุ้มค่าและมีลวดลายให้เลือกเยอะมากๆ ก็คือ ผิวเมลามีน ที่ปิดทับบนแผ่นไม้ Particle Board หรือ ไม้ HMR (ไม้ทนความชื้นสูง) ซึ่งผิวเมลามีนลายไม้นี่แหละค่ะ ที่มีให้เลือกละลานตาตามความต้องการ
Comments